ไม่รู้ จะ ทำ อะไร

จำกัดเวลาหมกมุ่นในโซเชียล จำไว้ว่าสิ่งที่โพสต์บนโซเชียลส่วนใหญ่คือด้านดีที่เจ้าของอยากให้คนอื่นเห็นทั้งนั้น มันจึงไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะไปตามดูชีวิตของคนอื่นจนมารู้สึกเหงากับชีวิตตัวเอง ทางที่ดีอย่าไปหมกมุ่นกับโซเชียลมากนัก 5. หาต้นเหตุที่ทำให้รู้สึกเหงา การหาสาเหตุของความเหงาฟังดูเป็นสิ่งที่พูดง่ายแต่ทำยาก แต่หากเรารู้ถึงต้นตอที่ทำให้เกิดความรู้สึกนี้ เราก็จะสามารถหลีกเลี่ยงและหาทางรับมือกับมันได้ดียิ่งขึ้น เช่น หากคุณรู้สึกเหงาเวลาเห็นคนอื่นอยู่กันเป็นคู่ คุณก็เลี่ยงที่จะพาไปตัวเองไปเจอกับอะไรแบบนี้ซะ 6. คิดถึงข้อดีของการอยู่คนเดียวให้มาก ๆ เช่น จะทำอะไรก็ได้ กินอะไรก็ได้ เสียงดังแค่ไหนก็ได้ หรือจะตดจะเรอตอนไหนก็ไม่มีใครว่า (อิอิ) การคิดถึงข้อดีของการใช้ชีวิตอยู่คนเดียวคือการคิดถึงอิสระที่คุณจะได้ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ ตัวคุณเองก็จะรู้สึกได้ว่า "การอยู่คนเดียวมันดีจะตายไป" 7.

ทำไงดี? เมื่อไม่รู้ว่าตนเองอยากเรียนคณะอะไร - We by The Brain

ถึงแม้ว่าคุณต้องการพูดสิ่งที่คุณคิดแต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณต้องควบคุมบทสนทนา ผู้คนชอบเวลาที่ผู้อื่นแลดูสนใจในสิ่งที่พวกเขาอยากพูด คุณต้องรับฟังเพื่อนของคุณอย่างตั้งใจและถามหาข้อมูลเพิ่มเติม ผู้คนชอบอยู่ใกล้คนที่สนใจในเรื่องราวของพวกเขา หากเพื่อนของคุณบอกอะไรคุณบางอย่าง คุณต้องตอบว่า "เยี่ยมไปเลย! " หรือ "เล่าให้ฟังอีกสิ" สิ่งนี้จะกระตุ้นให้เพื่อนของคุณพูดต่อไปและเป็นการเยินยอพวกเขา การถามคำถามเป็นวิธีที่ดีในการทำให้บทสนทนาไหลลื่น [12] เล่าเรื่อง. เรื่องราวที่ดีเป็นตัวช่วยของบทสนทนาทุกรูปแบบ ผู้คนจะอยากอยู่ใกล้คุณหากคุณเล่าเรื่องเก่ง ใช้การเล่าเรื่องหากเกี่ยวข้องกับบทสนทนา เช่น เล่าเรื่องที่คุณและพี่ชายแกล้งแม่ของคุณตอนที่ไปเที่ยวเขาใหญ่ หากเพื่อนของคุณกำลังพูดถึงวัน April's Fool Day มันจะเป็นโอกาสที่ดีในการเล่าเรื่องของคุณ [13] คุณไม่ควรจำกัดการเล่าเรื่องอยู่เพียงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวคุณโดยตรง คุณสามารถเล่าเรื่องอะไรก็ได้ คุณเพิ่งได้ยินข่าวที่น่าสนใจเมื่อเร็วๆ นี้หรือเปล่า? คุณได้อ่านบทความที่น่าทึ่งในนิตยสารหรือไม่? คุณรู้เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับอดีตของดาราหรือนักแสดงชื่อดังหรือเปล่า? เรื่องราวเหล่านี้อาจจะเป็นเรื่องราวที่น่าสนุกที่คุณสามารถเพิ่มในบทสนทนาได้ [14] หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเล่าเรื่องอย่างไร คุณสามารถลองฟังรายการวิทยุได้ รายการวิทยุบางรายการใช้การเล่าเรื่องและคุณสามารถเรียนรู้วิธีการเล่าเรื่องที่ดีจากการฟังรายการเหล่านี้ เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 1, 906 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

ไม่ปฏิบัติต่อลูกเหมือนเป็นส่วนขยายของคุณ ลูกของคุณเป็นคนพิเศษ พวกเขาไม่ใช่คุณ บางสิ่งอาจทำให้คุณคลั่งไคล้ งานบางอย่างอาจเป็นสิ่งที่พวกเขารักที่จะทำ การต่อต้านหรือการกระตุ้นให้ลูกของคุณหลีกเลี่ยงเส้นทางบางอย่าง เพียงเพราะเป็นสิ่งที่คุณไม่สนใจ เช่น ลูกของคุณอาจไม่สนใจเข้าเรียนในโรงเรียนเก่าหรือทำงานที่คุณทำ เป็นต้น 2. ช่วยให้ลูกของคุณค้นพบจุดแข็ง และความสนใจของตัวเอง ส่งเสริมให้บุตรหลานของคุณพบกับที่ปรึกษาด้านอาชีพ เพื่อทำแบบทดสอบความถนัด การทำแบบประเมินที่หลากหลาย และมองหารูปแบบจากผลลัพธ์จะมีประโยชน์มาก หากบุตรหลานของคุณสนใจอาชีพที่ไม่สอดคล้องกับจุดแข็งตามธรรมชาติ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องตัดตัวเลือกนั้นออกไปทันที แต่ให้ระดมความคิดว่าลูกของคุณจะนำจุดแข็งโดยกำเนิดมา สู่สาขานั้นได้อย่างไร มุมมองและจุดแข็งที่ไม่ธรรมดาของพวกเขาในด้านนั้น สามารถช่วยให้พวกเขาสร้างผลงานที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้ 3. หาที่ปรึกษาที่ดีให้ลูก แสวงหาแบบอย่างที่ดี และให้กำลังใจสำหรับบุตรหลานของคุณ หากลูกของคุณแสดงความสนใจอย่างมากในเส้นทางอาชีพบางอย่าง ให้ช่วยลูกของคุณหาที่ปรึกษา ที่จะสร้างแรงบันดาลใจในสาขานั้น การมีพี่เลี้ยงที่ดีสามารถเติมพลังให้กับแรงบันดาลใจในอาชีพของลูกคุณได้ 4.

กลับมาที่คำถาม จะเรียนคณะอะไรดี? สุดท้ายแล้วคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด คือตัวของน้อง ว่าเราจะเลือกอะไรให้กับตัวเอง เพราะ 8 วิธีที่พี่วีวี่นำมาฝากกันนั้นเป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้น้อง ๆ รู้จักตนเองมากขึ้น แต่หากน้อง ๆ คนไหนที่รู้แล้วว่าอยากเรียนคณะอะไร ก็ให้มุ่งมั่น ฝึกฝนให้เต็มที่ เพื่อความฝันของเรานะคะ

ไม่รู้จะทําอะไร pantip

บวกกันสักที กระแทกกรอบวันวานที่เคยทำไม่ได้ เราจะไม่ถามว่าตอนนี้ชาว UNLOCKMEN อายุเท่าไหร่กันแล้ว แต่ถ้ากำลังตามหาเป้าหมายหรือสิ่งที่รักในชีวิตนี้อยู่ ลองย้อนกลับไปในวันวานกันหน่อย มันต้องมีสักช่วงวัยนึงของเราที่โดน ห้าม! ไม่ว่าจะแม่ไม่ให้เล่นดนตรี พ่อไม่ให้เรียนศิลปะ คนข้างบ้านตะโกนด่าตอนเราฟังเพลงร็อก จนเราต้องยอมแพ้ล้มเลิกไป ถึงเวลาแล้วดึงมันกลับมาซะเพื่อคลายปมและเติมความรู้สึกที่เคยแหว่งวิ่นไปให้เต็ม 5. โม้ให้ตัวเองฟังหน่อย อยู่ต่อหน้าคนอื่นอย่าไปทำแบบนี้! แต่ตอนนี้อยู่ตัวคนเดียว ถึงเวลางัดเอามาพูดเพื่อเร่งให้ตัวเองเข้าใกล้สิ่งที่ต้องการจริง ๆ กับเขาสักที อาจจะลองเปิดประโยคเด็ดที่โม้ไม่สุดก็ได้ถ้ายังกังวล เช่น ตั้งแต่เกิดมาเราทำเคยได้รางวัลอะไรติดตัวกับเขามาบ้างวะ? ตอนอยู่ในวงเหล้าเราสร้างความสนุกให้เพื่อน ๆ บ้างหรือเปล่า? ค้นหาพรสวรรค์ตัวเองไปเรื่อย ๆ จะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหนก็ให้เอาออกมาโม้ คนแก่ชม หมามองตามอะไรก็พูดออกมาให้ตัวเองได้ยินดัง ๆ ทำวนไปให้ครบสัก 10 ข้อ หล้งเจอข้อดีในตัวเอง ถัดมาต้องต่อยอดมันด้วย มันต้องดีขึ้นกว่านี้แล้วรับรองว่าจะพาไปเจออะไรดี ๆ อย่างอื่นต่อไปได้แน่ 6.

  • ไม่รู้ว่าจะทำอะไร - YouTube
  • หา งาน sc asset id
  • มีอะไรสนุกทำกับเพื่อนสาวไม่รู้จบ - wikiHow
  • ทำไงดี? เมื่อไม่รู้ว่าตนเองอยากเรียนคณะอะไร - We by The Brain
  • พูด อังกฤษ ได้ ใน 3 เดือน

รู้หรือไม่?

อยู่คนเดียวก็เปรี้ยวได้! 7 เทคนิคใช้ชีวิตคนเดียวให้ไม่เหงา

อดทนและให้กำลังใจ เตือนบุตรหลานของคุณว่าการแสวงหางานที่พวกเขารัก มักเป็นกระบวนการที่ยาวนานในการค้นหา และทดลองตนเอง พวกเขาอาจเปลี่ยนหลักสูตรขณะที่พวกเขานำทางในเส้นทางอาชีพของตน อดทนกับลูกของคุณในระหว่างการตัดสินใจที่ยากลำบากเหล่านี้ และสนับสนุนให้พวกเขาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวเองต่อไป เพื่อที่พวกเขาจะได้เติบโตเป็นในสิ่งที่พวกเขาควรจะเป็น ที่มา:

เพิ่มฝันจากหน่วยกิตที่ชอบ จะงงไหม? ถ้าเราบอกคุณว่าเราจะโยนเงินให้คุณสักก้อน เอาแบบมากพอจะไปเรียนเสริมอะไรก็ได้สักอย่าง โดยไม่ต้องไปนั่งคิดถึงอนาคตว่าสิ่งที่เรียนนั้นจะใช้ได้ไหม แล้วให้คุณตอบตามตรงว่า คุณอยากเรียนอะไร นั่นแหละคือวิธีสะกดรอยไปให้เจอว่าสิ่งที่ใช่ของคุณคืออะไร! ทำไมต้องถามเรื่องเรียน? เหตุผลมันง่ายมากเพราะในความเป็นจริงแล้ว การเรียนมันคือการให้คุณทำงานแบบฟรี ๆ ดังนั้น ถ้าคุณพอใจกับเรื่องไหนก็แสดงว่าทางนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่คุณชอบและแฮปปี้กับมันได้ไม่ว่ามันจะใช้เวลามากกว่าชีวิตแบบ nine to five หรือเปล่าก็ตามที 3. ลิสต์ 3 คนสุดปลื้มขึ้นมา ข้อนี้จะต่างจากข้อแรก เพราะข้อแรกอารมณ์เราจะเข้าข่ายอยู่ด้านลบมากกว่าบวก เพื่อสร้างความสมดุลเราจะให้คุณลองเลือกคนสามคนในลิสต์คนที่คุณปลื้มขึ้นมา ไม่ว่าเขาจะเป็นไอดอลของคุณในด้านไหน กีฬา การเงิน ฯลฯ แต่หลังจากเลือกมาแล้วช่วยถามต่อไปอีกด้วยว่า "ทำไมนายถึงได้ปลื้มพวกเขาออกหน้าออกตา หรือเป็นแฟนคลับที่คอยออกโรงปกป้องไม่ให้คนรอบข้างมาแหยมมายุ่ง " หลังจากรู้แล้วว่าทำไมเราจะรู้ตัวเองอีกนิดว่าที่จริงแล้วเรามีค่านิยมหรือชื่นชอบอะไร ของพวกนี้แหละที่มีคุณค่ามากพอจะมาปั้นต่อให้เป็น passion 4.

ให้บุตรหลานของคุณทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อดูว่าพวกเขาสนใจอะไร ให้โอกาสลูกของคุณได้ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ สัมผัสกับธรรมชาติ ศิลปะ วิทยาศาสตร์ ไปพิพิธภัณฑ์สวนสัตว์ ได้เดินทาง มีโอกาสมากมายที่คุณจะเพลิดเพลินร่วมกันกับลูก ควรให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาสนใจ หากมีหัวข้อที่พวกเขาสงสัย หรือแสดงความตื่นเต้น ควรแนะนำให้พวกเขาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อนั้น บ่อยครั้ง การตัดสินใจเลือกงานบางสายงานต้องค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากผู้คนยังคงต้องสำรวจความสนใจของตนอย่างลึกซึ้ง 5. ค้นหากลุ่มของคุณ และสนับสนุนให้บุตรหลานของคุณค้นหากลุ่มของตัวเอง ส่งเสริมให้บุตรหลานของคุณ เข้าร่วมชุมชนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันกับลูกของคุณ เพื่อท้าทายบุตรหลานของคุณให้ออกจาก Comfort Zone และมีส่วนร่วมกับกลุ่ม โดยส่งเสริมบุตรหลานของคุณ ให้ใช้เวลากับเพื่อนที่สร้างแรงบันดาลใจร่วมกันได้ การมีกลุ่มที่น่าทึ่งในชีวิตจะช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ และอาจส่งผลต่อการตัดสินใจหลายอย่างที่พวกเขาทำ 6. เป็นตัวอย่างที่ดี ลูกของคุณคอยเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของคุณ ดังนั้นจงพยายามเป็นตัวอย่างที่ดีในการทำงานที่คุณชอบ เมื่อลูกของคุณเห็นคุณสร้างอาชีพที่คุณรักจริงๆ พวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นไปได้สำหรับพวกเขาที่จะค้นหา และทำงานที่พวกเขารัก ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะใช้เวลาทำสิ่งที่คุณรักมากขึ้น ดังนั้นจงมองหาสิ่งที่ทำให้คุณสดใส ทำสิ่งที่คุณรักให้มากขึ้น และลดสิ่งที่ไม่สำคัญให้น้อยลง 7.